จนกลางปี 2566 ได้ไปทำบุญที่วัดเจดีย์หลวง และพึ่งมีการไถ่ชีวิตโค-กระบือจึงเกิดแนวคิดว่าถ้าขอโค-กระบือ จากพระเพื่อมาให้ข้าราชการตำรวจแพร่ได้เลี้ยงคงจะดีไม่น้อยจึงเริ่มแผนการเดินตรงไปที่กุฏิพระกบ ว่าจะต้องทำอย่างไรซึ่งทราบว่าพระครูอ๊อดเป็นผู้ที่ไถ่ชีวิตมาต้องคุยกับท่านโดยตรง เราก็เพียงโทรศัพท์ไปหา และไปหาที่กุฏิก็ไม่ได้พบได้ยิน แต่เสียงทางโทรศัพท์ในครั้งที่ 3 จึงได้พูดคุยกัน จึงได้ทราบว่าจะต้องไปที่วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม เพื่อทำเรื่องขอจากโครงการธนาคารโค-กระบือ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม เราก็ตรงไปถามกราบว่าต้องทำอย่างไรสุ่มสี่สุ่มห้าไปอย่างนั้นไม่รู้จักใคร เจ้าหน้าที่ก็บอกงว่าต้องเสนอเป็นโครงการเสนอมาเพื่อเอาเข้าที่ประชุมเราก็รับกลับมาเขียนขอโค-กระบือไป 50 ตัวในขณะนั้นก็ได้มา 50 ตัวก็บุญโขแล้ว แต่เหมือนฟ้าประทานเราได้มาพบกับรองประธานมูลนิธิฯ (คุณโอ๋) และได้คุยกันไปคุยกันมาดันเป็นคนรู้จักกับครอบครัวฝั่งภรรยาผมจึงอนุมัติโดยง่ายคุณโอ๋ฯ บอกว่าเดี๋ยวจะขอนำเสนอพระครูอ๊อดในช่วงบริจาคโค-กระบือให้หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้รับ โทรศัพท์ให้ไปร่วมพิธีรับโค-กระบือที่วัดเจดีย์หลวงช่วงแรก 2-3 ไปครั้งหนึ่งรับวัว-ควายมาก็รับ และส่งให้ ลูกน้องที่แพร่เรียกได้ว่ารับจนเหนื่อยทะลุ 50 ตัวแล้วจนจะจบโครงการแล้ว แต่ท่านพระครูอ๊อดไม่ได้ หยุดให้ท่านให้มาถึงปัจจุบันนี้ประมาณ 400 กว่าตัวทะลุเป้าหมายที่วางไว้มากต้องกราบขอบพระคุณพระครูอ๊อด (วัดเจดีย์หลวง) เป็นอย่างสูง

ทั้งนี้ยังมีอีกวัดที่คอยสนับสนุนให้วัว-ควายแก่ข้าราชการตำรวจอีกท่านหนึ่งคือเจ้าอาวาสวัดอีด อ.เชียงดาว ท่านนี้ก็คอยให้อยู่หลายตัว ปัจจุบันท่านได้เลื่อนสมศักดิ์เป็นเจ้าคณะตำบลแล้ว

มือทั้งสองข้างคือการเกื้อหนุน
และส่งเสริมครอบครัวตำรวจและครู